ลองอ่านเองดิ - ลองอ่านเองดิ นิยาย ลองอ่านเองดิ : Dek-D.com - Writer

    ลองอ่านเองดิ

    xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

    ผู้เข้าชมรวม

    555

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    555

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 ส.ค. 49 / 20:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                                         เสียงประตูถูกปิดดังโครมพร้อมๆกับเสียงฝีเท้าปึงปังของคนสองคน

      ร่างเล็กในชุดราตรีสีชมพูอ่อนถูกเหวี่ยงไปติดกำแพงอย่างไม่มีปรานีปราศรัย ร่างสูงที่ก้าวเข้ามาทีหลังจับไหล่บางกดไว้ไม่ให้หล่อนดิ้น สองร่างหายใจแรงด้วยเพลิงโทสะที่ลุกโชน

      "นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ คาโล วาเนบลี" เสียงผู้หญิงเอ่ยเฉียบขาด ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองใบหน้าขาวคมคายที่อยู่ห่างแค่คืบอย่างไม่กลัวเกรง

      "ใครให้นายไปเต้นกับโรเวน" เสียงทุ้มต่ำแหบพร่า แม้จะเบาแต่ก็เย็นยะเยือก

      "ฉันจะเต้นกับใครมันก็เรื่องของฉัน"

      "แต่ฉันไม่ชอบ"

      ดวงตาสองคู่จ้องกันนิ่งอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่หญิงสาวจะแย้มรอยยิ้มเหยียด

      "นายเข้าใจผิดอะไรไปรึเปล่า ฉันต้องสนด้วยหรือว่าอะไรที่นายชอบอะไรที่นายไม่ชอบ"

      คำพูดนั้นเร่งอารมณ์กรุ่นของคนตรงหน้าให้โหมทวี ดวงตาสีฟ้าเข้มขึ้นจนเหมือนเปลวเพลิง

      "นายรู้อยู่แก่ใจเฟริน อย่าทำแบบนี้อีก" ดวงหน้านั้นโน้มใกล้เข้ามาอีก

      "จุดเดือดต่ำจริงนะ" ใบหน้าหวานเชิดขึ้นอย่างท้าทาย

      "ถ้านายรู้แล้วว่าความอดทนฉันมีจำกัด ก็อย่ายั่วให้มันมากนัก"

      "ฉันจะยั่วแล้วจะทำไม"

      ริมฝีปากอุ่นประทับลงมาบนริมฝีปากบางที่เผยอค้างไว้แทบจะทันทีที่คำพูดนั้นหยุดลง

      ราวกับรออยู่แล้ว ลิ้นเรียวตวัดตอบโต้การคุกคามที่รุกล้ำเข้ามาอย่างหิวกระหาย มือแกร่งทั้งสองข้างที่เกาะกุมไหล่บางอยู่แน่นค่อยๆคลายลงแล้วรวบร่างตรงหน้าเข้าสู่อ้อมอกกว้างจนเนินเนื้อนุ่มทั้งคู่เบียดชิดกับร่างกายเขา สองร่างควานหาความหวานของกันและกันเนิ่นนานจนลมหายใจเริ่มกระชั้น ชายหนุ่มจึงค่อยๆถอนริมฝีปากออก แต่สายตายังจับจ้องไปที่ดวงตาสีน้ำตาลคู่งามบนใบหน้านวลที่ค่อยๆลืมขึ้น ริมฝีปากบางแดงก่ำขยับพูด

      "นายพอใจแล้วใช่ไหม"

      ดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มเปลี่ยนเป็นประกายกร้าว แขนเล็กผลักร่างสูงออกไปโดยแรงจนกระเด็นไปด้านหลังพลางหันกายก้าวไปทางประตู

      "เฟริน!" เสียงเย็นเยียบห้วนราวกับตวาด

      "คราวหลังนายอย่ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันอีก ฉันไม่ชอบ" เฟรินตอบโดยไม่หันหลังกลับมามอง

      แต่พอมือเล็กจะสัมผัสกับลูกบิดประตู เอวบางก็ถูกกระชากจากด้านหลังโดยแรงจนร่างทั้งร่างลอยขึ้นจากพื้น ตัวหล่อนอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งที่รัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก แผ่นหลังนวลเนียนที่โผล่ออกมานอกชุดเปิดหลังแนบชิดจนรู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นแรงของคนที่รวบร่างหล่อนไว้

      "นายเป็นของฉัน" เสียงพร่าด้วยอารมณ์ถูกกรอกเข้าไปถึงสมองตามด้วยการขบหนักๆที่ใบหู

      หญิงสาวสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าถูกกัดแล้วก็ตอบโต้ด้วยการดิ้นสุดแรง แต่ร่างสูงก็ยิ่งรัดแน่น ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยวและอารมณ์ลึกๆบางอย่างที่เริ่มจะก่อเกิด เมื่อเริ่มหายใจไม่ออกหล่อนก็หยุดดิ้นหอบหายใจแรง

      "ตัวฉันก็เป็นของฉันสิ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะคาโล นายไม่มีสิทธิ์"

      "ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์"

      มือแกร่งข้างหนึ่งกอดรวบแขนเรียวทั้งสองข้างที่แสนร้ายกาจแนบไว้กับลำตัวจนมันไร้พิษสง ริมฝีปากอุ่นเลื่อนจากใบหูลงสู่ต้นคอขาวนวล เฟรินขนลุกซู่เมื่อลิ้นอุ่นตวัดแลบเลียซอกคอและค่อยๆไล้มาที่ปลายคางของหล่อน มืออีกข้างลูบหนักๆไปตามไหล่เนียนจนไปหยุดอยู่ที่เนินเนื้อนุ่มนิ่มที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ มือใหญ่เคล้นคลึงเนื้อสาวเล่นอย่างนุ่มนวลทว่าเร่าร้อน จนหญิงสาวต้องลอบระบายลมหายใจหนักๆออกมา

      "ปล่อย...ฉัน" เสียงนั้นเบาและขาดเป็นห้วงๆ

      "ไม่" เสียงทุ้มกรอกเข้าที่ข้างหูจนลมหายใจอุ่นปะทะแก้มนวล จมูกได้รูปซุกไซร้ไปตามลำคอที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นสาวที่หอมหวานจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะลิ้มรสไปทั่ว ผิวขาวนวลขึ้นสีแดงเป็นจ้ำๆไปทุกที่ที่คนข้างหลังประทับรอยเอาไว้

      เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเลิกดิ้นและเริ่มอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนเขา มือข้างหนึ่งก็ลูบต่ำลงไปยังเอวบางและสะโพกกลมกลึงก่อนที่จะเลยไปยังหน้าท้องแบนราบและเนินเนื้อแห่งความเป็นหญิง แม้จะนอกร่มผ้าแต่ร่างบางก็สะท้านวูบเผลอครางแผ่วในลำคอ

      เสียงนั้นทำให้ชายหนุ่มยิ่งได้ใจ มือข้างนั้นยิ่งรุกหนัก คาโลเลิกกระโปรงบานนุ่มพลิ้วขึ้นมาถึงโคนขา พลางค่อยๆลูบไล้เข้าไปใต้กระโปรง

      "นายหยุดเดี๋ยวนี้นะ" เสียงแหลมสูงดังขึ้นพร้อมกับอาการดิ้น แต่ก็ต้องชะงักแล้วบิดร่างอย่างเสียวซ่านเมื่อนิ้วเรียวล้วงลึกเข้าไปในจุดเร้นลับแล้วสัมผัสลงบนส่วนอ่อนไหวแห่งอารมณ์ ปลายนิ้วอุ่นนวดเน้นเบาๆจนหญิงสาวต้องกัดริมฝีปากเพื่อสะกดกลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดออกมา ขาของหล่อนไร้เรี่ยวแรงจนต้องทิ้งร่างไปกับอ้อมแขนแข็งแกร่งที่โอบอุ้มไว้จากด้านหลัง

      "รู้รึยังว่าฉันมีสิทธิ์ทำอะไรกับนาย" เสียงทุ้มจากร่างสูงที่เริ่มหายใจแรง

      เฟรินฟังเสียงนั้นแทบไม่รู้เรื่อง เมื่อนิ้วของคนพูดเสียดสีกับร่องเนื้อบอบบางแล้วก็แทรกเข้าไปชอนไชในร่างกายหล่อนราวกับควานหาอะไรบางอย่าง เมื่อร่องนั้นเริ่มชุ่มชื้นนิ้วที่สองก็ตามเข้าไป ดวงตาสีน้ำตาลปิดแน่น คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยอารมณ์พุ่งพล่าน ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว โลหิตสูบฉีดจนผิวกายแดงซ่าน ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงความเป็นชายที่แนบชิดอยู่ด้านหลัง

      "แล้วนายจะเสียใจ" คำที่หญิงสาวกัดฟันพูดออกมาเรียกรอยยิ้มเหยียดจากใบหน้าคมคาย

      "นายเป็นของฉัน รู้ไว้ซะ" คาโลว่าพลางยกมือที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำขึ้นลิ้มลองรสชาติของหญิงสาวแรกรุ่น

      ริบบิ้นด้านหลังถูกกระตุกรวดเดียวหลุด ชุดบางเบาที่ยึดไว้ด้วยริบบิ้นไหมเพียงเส้นเดียวจึงหลุดออกจากร่างลงไปกองอยู่ที่เอว แขนแข็งแกร่งช้อนร่างบางที่อ่อนยวบยาบขึ้นจากพื้นแล้วก็โยนโครมลงบนเตียงนุ่ม เรียกเสียงหวีดร้องเบาๆจากคนถูกโยน ชายหนุ่มค่อยๆปลดกระดุมเสื้ออย่างใจเย็น ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายอย่างมาดมั่นจับจ้องอยู่ที่ร่างอ้อนแอ้นที่ค่อยๆขยับลุกขึ้นมานั่งราวกับจะกลืนกิน

      เสื้อผ้าถูกโยนทิ้งลงบนพื้น ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องแผ่นอกกว้างขาวจัดที่ปรากฏแก่สายตา

      หมอนี่ไม่ได้บอบบางอย่างที่หล่อนเคยคิด ร่างสูงกำยำแข็งแกร่งสมเป็นชาย ภาพคนตรงหน้าที่รูปงามราวกับเทพบุตรทำให้หัวใจของเฟรินเต้นแรง

      ปลายเตียงยวบลง เมื่อเข่าของเจ้าชายแห่งคาโนวาลทิ้งน้ำหนักลง แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวหญิงสาวตรงหน้า ฝ่าเท้าเล็กก็ถีบโครมเข้าใส่ใบหน้าเทพบุตรเต็มแรง มือเขาคว้าข้อเท้าข้างนั้นไว้ได้อย่างง่ายดายแล้วออกแรงลากร่างนั้นเข้ามาใกล้จนหล่อนเสียหลักล้มแผ่ลงบนเตียง ชายกระโปรงเลิกสูงขึ้นไปถึงโคนขาขาวผ่อง ใบหน้าหวานงอง้ำอย่างไม่สบอารมณ์

      "อย่าดื้อ เฟริน" ดวงตาสีฟ้าวาววับอย่างข่มขู่

      ขาข้างนั้นถูกยกขึ้นจรดกับริมฝีปากอุ่น ที่ค่อยๆโลมเลียสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึงขาอ่อน เขาจัดการดึงชุดสวยที่เกะกะออกไปให้พ้นทาง

      ดวงตาคู่สวยสำรวจร่างตรงหน้าอย่างเต็มๆตา ผิวนวลขึ้นสีเรื่อแดงเป็นรอยจ้ำจากฝีมือของเขา ทรวงอกกลมกลึงราวกับปั้น เอวบอบบาง สะโพกผายได้รูป ขายาวเรียวแบบสาวน้อยแรกรุ่น ดวงหน้าหวานแดงก่ำเมื่อรู้สึกว่าถูกจ้อง หล่อนเบือนหน้าหลบสายตาที่ราวกับจะกลืนกินนั้น

      "อย่าจ้องให้มากนัก ไอ้ทะลึ่ง"

      "นายจะจ้องฉันบ้างก็ได้ ฉันไม่ถือ"

      เฟรินหันกลับมามองอย่างโกรธๆ แต่ยังไม่ทันได้ด่าริมฝีปากอุ่นก็ประกบลงมาอีกรอบ เรียกไฟแห่งอารมณ์ให้โหมปะทุขึ้นมาใหม่ แขนเรียวตวัดขึ้นโอบรอบคอคนร่างสูง มือเล็กลูบไล้ไปที่เรือนผมสีเงินที่ละเอียดนุ่มมือและแผ่นหลังกว้าง มือใหญ่ไล่เวียนวนอยู่บนทรวงอกขาวที่ชูชันด้วยอารมณ์แล้วค่อยๆลูบไล้ต่ำลงจนสัมผัสกับร่องที่เปียกชื้น นิ้วเรียวสำรวจกลีบเนื้อนุ่มนวลนั้นอีกรอบ เรียกเสียงครางแหลมในลำคอจากปากที่ถูกปิดอยู่ หยาดน้ำแห่งความเป็นหญิงเอ่อล้นพร้อมๆกับการสะดุ้งของร่างบางเมื่อนิ้วเรียวสองนิ้วกระตุกหนักๆในช่องนั้น

      "อย่าเกร็งนะ" เสียงทุ้มกระซิบพลางโลมเลียที่ติ่งหูของเธอด้วยปลายลิ้น

      เฟรินสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่ค่อยๆแทรกเข้ามาในร่าง หญิงสาวเปล่งเสียงอุทานด้วยความที่เจ็บปวดจนน้ำตาซึม หล่อนเคยแต่เป็นคนทำ เพิ่งจะรู้ความรู้สึกของคนที่ถูกกระทำ

      เจ็บเหมือนถูกฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ

      ความร้อนที่เข้ามาจนสุดนิ่งคาอยู่อย่างนั้นชั่วครู่ ก่อนที่จะค่อยๆขยับเบาๆ เรียกเสียงครางให้หลุดออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อ เล็บคมๆจิกไปบนแผ่นหลังขาวจนชายหนุ่มต้องกัดฟันกรอด

      "เป็นของฉันนะเฟริน"

      ไอ้น้ำแข็งบ้าเพิ่งจะมาถาม

      "ไม่พูดซะพรุ่งนี้เลยล่ะ" หญิงสาวหอบหายใจแรงพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตอบ

      ลิ้นอุ่นดันเข้าไปในปากเล็กอีกครั้งพลางเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเรียวที่ตวัดตอบโต้อย่างเร่าร้อน

      บทรักค่อยๆเร่งขึ้นตามจังหวะการหายใจ สองร่างขยับกายสอดประสานกันจนชายหนุ่มใกล้ถึงฝั่ง หยาดเหงื่อไหลโซมกาย

      "หยุด!" เสียงหวานปนหอบสั่งห้วน

      มือบางกระชากเรือนผมสีเงินขึ้นโดยแรงจนใบหน้าคมคายต้องแหงนเงยขึ้นสบตาหล่อนอย่างงุนงง จังหวะรักชะงักวูบ

      "แบบนี้ฉันไม่แฮปปี้ คาโล"

      "แล้วนายจะเอายังไง" คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างอยากจะต่อเต็มทน

      รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นบนใบหน้าหวานที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ

      "ฉันไม่อยากเป็นของนาย"

      เจ้าชายแห่งคาโนวาลถูกเหวี่ยงลงไปข้างๆด้วยแรงที่ไม่น่าเชื่อ หล่อนตวัดกายขึ้นคร่อมตัวเขาไว้พลางขยับส่งความเป็นชายให้ร่างหล่อนกลืนกินไว้เหมือนเดิม แล้วก็ค่อยๆผ่อนลมหายใจ

      ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตั้งตัว เฟรินก็ขยับสะโพกอย่างหนักหน่วงหลายครั้งแล้วหยุด เล่นเอาคนข้างล่างกัดฟันกรอด

      "นายเป็นของฉันดีกว่า" หล่อนเสยผมสีน้ำตาลละเอียดที่ยาวสยาย แล้วก้มลงจูบเขาดูดดื่ม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากหญิงสาวข้างบนทำให้คนที่โดนทำให้ลงมาอยู่ข้างล่างเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก

      แต่ในที่สุดดวงตาสีฟ้าก็ค่อยๆปรือลง ด้วยรสสัมผัสที่นุ่มนวลและวาบหวาม

      แบบนี้ก็ไม่เลว

      มือแกร่งประคองเอวบางพลางยกตัวหล่อนขึ้นเร่งให้ร่างบางขยับต่อ หญิงสาวค่อยๆขยับกายอย่างอ้อยอิ่งแล้วก็เร่งขึ้นเรื่อยๆ เส้นผมยาวสะบัดพลิ้วตามการเคลื่อนไหวของร่างที่ส่ายไปมาด้วยแรงปรารถนา มือแกร่งเคล้นคลึงสะโพกกลมกลึงด้วยความรู้สึกที่ต้องสะกดกลั้น

      "ดีไหม คาโล" เสียงหวานหอบกระเส่า

      เฟรินทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านหน้า มือเรียวบางลูบไล้ไปตามแผ่นอกแข็งแกร่งก่อนที่ร่างของหล่อนจะกระตุกแหงนเงยไปด้านหลัง ลมหายใจหอบถี่ เสียงครางกระชั้น เขาเองก็จะทนไม่ไหวแล้ว หญิงสาวขยับกายเร็วขึ้นเรื่อยๆแล้วก็

      หยุดซะงั้น!

      เขาลืมตามองร่างบนตัวเขาที่ขยับรอยยิ้มอย่างยั่วยวน

      "ฉันบอกแล้ว ว่านายจะต้องเสียใจ คาโล"

      หล่อนจะทำให้เขาคลั่ง!

      เฟรินนั่งนิ่งไม่ยอมขยับต่อจนเจ้าชายน้ำแข็งต้องกัดฟันกรอด กระชากร่างบางลงกับเตียงแล้วจัดการสำเร็จโทษต่อทันควัน หญิงสาวหอบหายใจพลางหัวเราะคิกคักจนเขาต้องปิดปากหล่อนซะ คราวนี้ร่างสูงขยับเร่งจนเฟรินต้องกัดฟันจิกนิ้วลงกับเตียง ทั้งคู่ดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความหฤหรรษ์ที่ลึกล้ำลงเรื่อยๆ ก่อนที่เฟรินจะกรีดร้องพร้อมกับเกร็งกระตุกไปทั้งร่างเมื่อหยาดสุดท้ายถาโถมเข้าสู่ร่างของหล่อน

      คนข้างบนทิ้งกายซบลงกับไหล่บาง สองร่างนอนหอบอยู่ชั่วครู่แล้วริมฝีปากอุ่นก็สัมผัสแก้มเนียนก่อนจะพลิกกายลงไปนอนข้างๆ เฟรินหันไปมองดวงหน้าคมคายพลางปีนขึ้นไปบนอกกว้างแล้วเท้าแขนนอนพังพาบอยู่บนนั้น ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตเพ่งมองใบหน้าราวรูปสลักที่มองตอบ แก้มใสๆทั้งสองข้างยังแดงระเรื่อ หล่อนดูไร้เดียงสาน่ารักจนมือใหญ่ต้องขยับขึ้นลูบไล้แก้มเนียนเบาๆ

      "อะไร" คำถามห้วนแต่นุ่มนวล เรียกรอยยิ้มกว้างจากใบหน้าหวาน

      "ช้าๆจะดีกว่านะ" รอยยิ้มเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ก่อนที่ร่างเล็กจะพลิ้วกายหนีการคว้าของอ้อมแขนแข็งแกร่งไปอย่างหวุดหวิด พอเจอมือโปรสอนเข้าให้ หน้าขาวๆก็ขึ้นสีเข้มเหมือนถูกตบอย่างแรง

      "ไม่ต้องมาสอนฉัน" คาโลขยับลุกตาม

      "ไม่เอาน่า ฉันรู้ว่านายครั้งแรก" เฟรินวิ่งวนไปรอบๆห้อง

      "นายก็ครั้งแรก"

      "นายแน่ใจ?"

      "เฟริน!"

      ร่างเล็กถูกคว้าไว้ได้ในที่สุด เสียงหัวเราะร่วนยังไม่หายไปแม้จะถูกทิ้งโครมลงบนเตียงอีกรอบ แล้วก็ต้องหยุดกึกกลืนน้ำลายเอื้อกเมื่อดวงตาของคนที่ขึ้นคร่อมร่างหล่อนเอาไว้ดุจนน่ากลัว

      "นายอย่าโกรธน่า ไม่สอนก็ไม่สอน" หญิงสาวออดอ้อน พอเห็นแววดุคลายลงก็ขยับปากพูดต่อ "แต่เดี๋ยวฉันบอกนายเองว่าชอบแบบไหน" แขนเล็กโอบรอบคอพลางแย้มรอยยิ้มยียวนที่ต้องชะงักลงเมื่อคนตรงหน้ายิ้มตอบ

      "นายไม่ต้องบอกหรอกเฟริน ฉันชอบค้นคว้าเองมากกว่า" ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายระยับให้หญิงสาวหงุดหงิด

      "ไอ้นักเรียนดีเด่น!" คำโวยวายนั้นสร้างความขบขันให้คาโลแต่เขาก็แสร้งปั้นหน้าขรึม

      "ฉันว่าเรื่องนี้ยาก คงต้องค้นกันนาน"

      "ไอ้ทะลึ่ง!"

      ริมฝีปากอุ่นของนักเรียนดีเด่นทาบลงมาอีกครั้ง มือใหญ่เริ่มอยู่ไม่สุข เฟรินขัดขืนน้อยๆพอเป็นพิธีก่อนจะปล่อยให้คนชอบค้นคว้าจัดการค้นร่างหล่อนตามใจชอบไปตลอดคืนจนทั้งคู่หมดเรี่ยวแรง

      ยามเช้ามาถึงพร้อมกับเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว

      เฟรินค่อยๆขยับกายแต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกขัดยอกไปทั้งร่าง พอเลิกผ้าห่มดูก็ต้องตกใจ

      ล่อนจ้อน!

      แถมยังมีรอยแดงๆทั่วไปหมด

      ไอ้บ้าคาโล ทะเลาะกันอยู่ดีๆไหงจบแบบนี้วะ

      เรื่องเมื่อคืนค่อยๆไหลเข้ามาในหัวเหมือนน้ำท่วม หล่อนค่อยๆหันไปมองคนข้างๆ ดวงตาสีฟ้าคู่สวยที่มีรอยขันจ้องมาอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวจึงแยกเขี้ยวถาม

      "ดูผลงานของนาย" นิ้วเรียวชี้ไปที่รอยแดงจ้ำที่ลำคอและเนินอก "ทำอะไรไม่รู้จักคิด รีบทำให้มันหายไปเร็วๆเลย"

      คนอื่นต้องสังเกตเห็นแน่!

      คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆ คำพูดแสนสั้นที่หลุดออกมาจากปากคนพูดน้อยก็คือ

      "ไม่ ฉันง่วง"

      "คาโล!"

      ชายหนุ่มพูดแล้วก็แสร้งหันหลังให้หล่อน คำตอบนั้นทำเอาเฟรินแทบจะเต้น แบบนี้ไอ้คิลมันก็แซวตายน่ะสิ แล้วยังสายตาสอดรู้สอดเห็นแปลกๆจากคนอื่นๆ อย่างน้อยไอ้โรมันต้องรู้แน่ เมื่อนึกถึงสีหน้ายิ้มๆของมันแล้วก็ให้หงุดหงิดใจยิ่งนัก แล้ววันนี้เธอยังต้องเดินทางไปบารามอส ไม่มีทางที่จะออกจากป้อมอัศวินไปโดยไม่มีใครรู้เห็น

      "คาโล" เฟรินลุกขึ้นนั่งกอดอกหรี่ตามองคนข้างๆที่แกล้งนอนนิ่งไม่รู้ไม่ชี้แล้วก็ให้นึกหมั่นไส้เต็มกำลัง

      "..."

      "นายจะไม่ทำใช่ไหมคาโล" น้ำเสียงสูงอย่างหมดความอดทน "แล้วนายจะเสียใจ"

      ร่างสูงต้องหันกลับมามองเมื่อเฟรินกระชากผ้าห่มออกไปจากตัวเขาแล้วกระโดดขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว หล่อนไม่พูดพล่ามทำเพลงก้มลงประทับรอยแดงบนต้นคอขาวๆของเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่นอนนิ่งยอมให้ทำแต่โดยดีหลายที่ แถมท้ายด้วยการทิ้งรอยฟันจากการกัดเบาๆไว้ที่ปลายจมูกได้รูป แล้วก็เผ่นแผลวลงจากเตียงมายืนมองคนที่พยายามทำตาดุแต่ไม่สำเร็จเพราะความจริงแอบดีใจ

      "ของฝากให้พ่อนาย จากประสบการณ์ของฉันมันจะอยู่ไปอีกสามวันเป็นอย่างน้อย" น้ำเสียงเยาะเย้ยพลางเหยียดยิ้มอย่างสะใจ พลางมือก็คว้าเสื้อผ้าขึ้นมาใส่แต่แล้วก็ต้องเบ้ปากเมื่อเจอชุดสีชมพูฟูฟ่องที่แสนจะใส่ยาก หล่อนโยนมันทิ้งแล้วก็คว้าเสื้อชายหนุ่มมาใส่แทน เสื้อตัวนั้นยาวจนหล่อนไม่ต้องเสียเวลาหากางเกงมาใส่

      "พ่อฉันคงดีใจ"

      คำตอบจากคนตรงหน้าทำเอาหัวขโมยต้องขมวดคิ้ว

      "นายหมายความว่าไง"

      "ทั้งๆที่พ่อไม่ค่อยจะพูดกับฉัน แต่พอเจอกันดันถามถึงนาย" ชายหนุ่มลุกขึ้นคว้ากางเกงมาใส่ก่อนที่หัวขโมยตัวแสบจะเอาไป ดวงตาสีฟ้าจับจ้องใบหน้างงๆของหญิงสาวที่ใส่เสื้อของเขา "ไปเที่ยวคาโนวาลเดือนหน้าเตรียมตัวแต่งงานซะด้วย"

      "เฮ้ย!" เฟรินร้องออกมาหลังจากอึ้งไปชั่วครู่ "นายล้อเล่นใช่ไหม"

      "ถ้าพ่อฉันรู้ว่าเรามีอะไรกันแล้ว นายก็เตรียมตัวได้"

      "อย่าทำเป็นผู้หญิงไปหน่อยเลยน่า นายจะบังคับให้ฉันรับผิดชอบนายเรอะ" หน้าหวานเริ่มซีดลงๆ

      "นายต่างหากที่เป็นผู้หญิง" คาโลเก็บเสื้อคลุมขึ้นมาใส่แล้วก็ทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง

      "นายจะไปไหน"

      "กลับคาโนวาล"

      "คาโล!"

      และแล้วเฟรินก็ไปบารามอสอย่างกระวนกระวายว่าไอ้รอยที่ตัวเองทำไว้จะหายทันก่อนที่คาโลจะกลับถึงคาโนวาลหรือไม่

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×